สาววัย 20 ตกนรกทั้งเป็น พ่อแท้ๆ กักขังไว้ในห้องเช่าเป็นปี อ้างข่มขืนคือการแสดงความรัก ป่วยหนักไม่ได้ไปหาหมอ แม่ทนไม่ไหวหนีไปแล้ว กันกระเทก บับเบิ้ล

(26 ต.ค.66) สืบเนื่องจากพลเมืองดีแจ้งขอความช่วยเหลือมายังมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี แจ้งว่า น.ส.น้ำ (นามสมมุติ) อายุ 20 ปี ป่วยไทรอยด์เป็นพิษขั้นรุนแรง ไม่ได้รักษาต่อเนื่อง เพราะถูกนายดำ (นามสมมุติ) อายุ 44 ปี พ่อแท้ๆ ข่มขืนและกักขังมานานกว่า 1 ปี ตอนนี้ น.ส.น้ำ อาการแย่ลงมาก เหนื่อยง่าย ใจสั่น อ่อนเพลีย อยากให้พาไปรักษาและช่วยเหลือให้พ้นจากพ่อหื่นกามรายนี้

พลเมืองดี เล่าอีกว่า ปกติแล้ว น.ส.น้ำ จะต้องอยู่ในสายตาพ่อตลอด วันนั้นจังหวะพ่อเผลอเลยมีโอกาสได้พูดคุยกัน น.ส.น้ำ เล่าทั้งน้ำตาว่า ตั้งแต่จำความได้หนูอยู่กับพ่อ 2 คนในห้องเช่ามาตลอด เพราะแม่ถูกพ่อทุบตีเป็นประจำเลยหนีไป พ่อมีอาชีพขายอาหารตามสั่งและมีนิสัยชอบดื่มเหล้าเมาเป็นประจำ พ่อข่มขืนหนูอย่างต่อเนื่องมาเป็นปีแล้ว หนูป่วยไม่มีเรี่ยวแรงที่จะต่อสู้ และถูกพ่อกักขังให้อยู่แต่ในห้องเช่า เวลาที่พ่อไปขายอาหารตามสั่งก็จะเอาหนูไปด้วยแต่ไม่ยอมให้หนูพูดคุยกับใครเลย

“หนูเกลียดพ่อที่ทำกับหนูแบบนี้ หนูเคยคิดไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ และเคยเอามีดจะมาแทงพ่อให้ตาย แต่เพราะหนูไม่มีแรงพ่อจึงแย่งมีดไปได้ และพ่อบอกกับหนูว่า ที่ทำไปนั้นเป็นเรื่องปกติ เป็นเรื่องที่พ่อแสดงความรักต่อลูก ทุกวันนี้หนูเหมือนตกนรกทั้งเป็น ขอให้พลเมืองดีแจ้งมูลนิธิปวีณาฯ มาช่วยเหลือหนูด้วย”

หลังรับเรื่อง นางปวีณา ได้ประสาน พ.ต.อ.กิตติพงษ์ เพ็ชรมุณี ผกก.สภ.ช้างเผือก และนายวรพงษ์ บุญเคลือบ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงใหม่ ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับเจ้าหน้าที่ พม. และสหวิชาชีพ ลงพื้นที่ห้องเช่าเข้าช่วยเหลือน.ส.น้ำ ทันที พบว่าน.ส.น้ำ อยู่ในสภาพอิดโรย และอ่อนเพลียมาก อยู่กับพ่อ 2 คน ในห้องเช่า เจ้าหน้าที่ พม. จึงได้รีบพา น.ส.น้ำ ส่งโรงพยาบาลทันทีโดยแพทย์สั่งให้แอดมิตโรงพยาบาลเพราะอาการหนักเกรงว่าจะเป็นอันตราย นอกจากนี้แพทย์ยังตรวจพบว่า น.ส.น้ำ กำลังมีภาวะซึมเศร้าร่วมด้วย ต้องดูแลทั้งสภาพร่างกายอย่างใกล้ชิด จากนั้นสหวิชาชีพและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปที่โรงพยาบาลสอบปากคำน.ส.น้ำ เบื้องต้นยืนยันต้องการจะดำเนินคดีกับพ่อให้ถึงที่สุด

ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.กิตติพงษ์ เพ็ชรมุณี ผกก.สภ.ช้างเผือก ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัว นายดำ พ่อที่ก่อเหตุรายนี้ไปทำการสอบสวนที่สภ.ช้างเผือก ก่อนจะแจ้งข้อหา ข่มขืนกระทำชำเราผู้สืบสันดานฯ และคุมตัวไปฝากขังศาลจังหวัดเชียงใหม่แล้ววันนี้

นางปวีณา กล่าวว่า ขอบคุณพลเมืองดีที่ไม่ดูดายพบเห็นผู้ตกทุกข์ได้ยากแจ้งเรื่องมายังมูลนิธิปวีณาฯ และขอบคุณ พ.ต.อ.กิตติพงษ์ เพ็ชรมุณี ผกก.สภ.ช้างเผือก นายวรพงษ์ บุญเคลือบ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงใหม่ ที่บูรณาการช่วยเหลือเคสอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้มูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามการช่วยเหลือหญิงสาวรายนี้ร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ จนกว่าอาการป่วยจะดีขึ้นก่อนจะมีการฝึกอาชีพให้สามารถเลี้ยงตัวเองได้และสามารถกลับมาใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างปกติสุขต่อไป