สลด “พ่อเฒ่า” 72 ถูกหลานในไส้ ปาดคอเกือบขาด เป็นศพคาบ้าน หลังเกิดเหตุหนีซุกบ้านญาติ ถูกตำรวจตามรวบทันควัน ด้านแม่ผู้ก่อเหตุเผยลูกชายติด “ยาบ้า” มักเสพจนหลอน มีพฤติกรรมชอบทำร้ายคนแก่ และอาละวาดทะเลาะญาติพี่น้อง-เพื่อนบ้านเป็นประจำ
เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 7 เม.ย. 65 ร.ต.อ.สรวิศิษฎ์ มีเพียร รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งเหตุฆ่ากันตาย ที่บ้านเลขที่ 98/1 หมู่ 2 บ้านดอนอีไข ต.นาดี อ.เมือง จ.อุดรธานี จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อม พ.ต.อ.จามร อันดี ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.อ.พันธุ์เพ็ชร เหล่ากำเนิดเพชร ผกก.สส.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.ท.สุรชิต ฤทธิ์ลี รอง ผกก.สส.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ต.บรรจง พาโคตร สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานอุดรธานี แพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี และอาสากู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรม
ที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้น ครึ่งไม้ครึ่งปูน บริเวณหลังบ้านเป็นโรงเก็บของสร้างเป็นเพิงมุงหลังคาไม่มีฝากั้น พบศพ นายมงคล มีศรี อายุ 72 ปี นอนตะแคงเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่ที่พื้นข้างโอ่งมังกรหมักหน่อไม้ดอง นอกจากนี้พบมีดทำครัวด้ามหักยาวประมาณ 1 ฟุต และท่อนไม้หักติดคราบเลือดยาวประมาณ 50 เซนติเมตร ตกอยู่ใต้ศพ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการชันสูตรเบื้องต้น พบบริเวณลำคอถูกของมีคมปาดจนเกือบขาด บริเวณฝ่ามือ ข้อมือ แขน และท้องมีบาดแผลถูกปาดเช่นกัน คาดว่าอาจเกิดจากการต่อสู้แย่งมีด ส่วนผู้ก่อเหตุคือนายอภิชาติ นรากรณ์ อายุ 26 ปี พนักงานโรงงานลวดมัดปากถุง ลวดมัดปากถุง อยู่บ้านเลขที่ 98/2 หมู่ 2 บ้านดอนอีไข ต.นาดี อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นหลานชายแท้ๆ ของผู้ตาย และหลบหนีไปหลังก่อเหตุ
จากการสอบสวน นางสมคิด นารากรณ์ อายุ 47 ปี ลูกสะใภ้ผู้ตายและเป็นแม่ของ นายอภิชาติ (ผู้ก่อเหตุ) เล่าว่า ผู้ตายเป็นพ่อของสามี ซึ่งสามีเสียชีวิตไปแล้ว ผู้ตายเคยบวชเป็นพระจำพรรษาอยู่ที่วัดบ้านหนองหูลิง ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี ประมาณ 3 พรรษา เพิ่งสึกออกมาเมื่อวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา และกลับมาอยู่ที่บ้าน มักจะไปนอนเล่นที่โรงเก็บของจุดเกิดอยู่เป็นประจำ ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นลูกชายตนและเป็นหลานชายผู้ตาย ไม่ทำงานทำการชอบเสพยาบ้าจนหลอนอาละวาดทะเลาะกับญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านประจำ โดยมีพฤติกรรมชอบทำร้ายคนแก่และผู้สูงอายุ จนญาติพี่น้องกลัวไม่กล้าเข้าใกล้ ตนได้พาไปบำบัดรักษามาแล้ว 1 ปี แต่ก็กลับมาเสพยาบ้าเหมือนเดิม ตอนนี้ก็ยังกินยารักษาอยู่ แต่ถ้ามีอาการหลอนก็จะอาละวาด ซึ่งวันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้ใช้จอบตีหัวยายได้รับบาดเจ็บ จนกระทั่งมาก่อเหตุฆ่าปู่วันนี้ คาดว่าลูกชายคงจะหลอนยา ซึ่งตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยากให้ตำรวจจับตัวไปดำเนินคดี เพราะทำให้ทุกคนอยู่ยาก
จากการสอบสวน นางพะยอม พาลีวงค์ อายุ 46 ปี หลานสะใภ้ผู้ตาย เล่าว่า ผู้ตายอาศัยอยู่กับตน ชอบมานอนเล่นอยู่ที่โรงเก็บของประจำ วันนี้ตนเห็นหลานชาย ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ เดินมาบีบคอผู้ตายถึง 2 ครั้ง โดยไม่ทราบสาเหตุ คาดว่าจะเสพยาบ้าจนหลอน พวกตนได้ห้ามปรามแล้ว กระทั่งช่วงค่ำตนได้เรียกผู้ตายมากินข้าว เมื่อกินอิ่มผู้ตายก็ไปพักผ่อนอยู่ที่เดิม ต่อมาก็ได้ยินเสียงดังคล้ายคนทุบตีและต่อสู้กัน ตนกลัวจึงไม่กล้าออกไปดู ประมาณ 2 นาทีก็เงียบไป จึงโทรแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ และพบว่าผู้ตายถูกฆ่าปาดคอเสียชีวิตแล้ว
“ตั้งแต่ปู่สึกมา ผู้ก่อเหตุก็เอาไม้มาแทงคอจนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งตนเสียใจที่ปู่ถูกฆ่า เพราะปู่ไม่ได้ทำความเดือดร้อนอะไรให้ใครเลย” นางพะยอม ระบุ
ต่อมาเวลา 21.00 น.วันเดียวกัน พ.ต.อ.พันธุ์เพชร เหล่ากำเนิดเพชร ผกก.สส.ภ.จ.อุดรธานี และ พ.ต.ท.ชัยรัตน์ ประสารพันธ์ สวป.สภ.เมืองอุดรธานี ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ติดตามจับกุมตัว นายอภิชาติ (ผู้ก่อเหตุ) ได้ขณะหลบซ่อนตัวอยู่หน้าบ้านญาติ ซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่ง นายอภิชาติ ไม่มีท่าทีต่อสู้ขัดขืน โดยยินยอมให้จับกุมแต่โดยดี แต่ยังไม่ยอมพูดจาหรือให้การใดๆ ตำรวจจึงควบคุมตัวไปจุดเกิดเหตุ พร้อมแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” และคุมตัวไว้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป