ผบช.ก. เผย ชายคลั่งยา บุกยิงปืนข้าง รร. หวังชิงตัวลูก 7 ขวบ ที่นครศรีธรรมราช เป็นลักษณะการ Copycat หรือพฤติกรรมเลียนแบบ
(7 ต.ค.65) กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.สรร มั่นเมืองรยา รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว ผกก.5 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ธนวัฒน์ หิ้นยกฮิ่น รอง ผกก.5 บก.ป., พ.ต.ต.ปิยะพร เรียนสุทธิ์ สว.กก.5 บก.ป., ร.ต.อ.ธีระพงษ์ คงเขียว รอง สว.กก.5 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. จำนวน 13 นาย
ร่วมกันจับกุม นายธีะพงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปีอดีตพนักงานโรงงานผลิต ถุงกระสอบสีขาว กระสอบปุ๋ย ในความผิดฐาน “ร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะฯ, มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีหรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองฯ, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน)ฯ และทำให้เสียทรัพย์” สถานที่จับกุม ในพื้นที่ ม.1 ต.ควนพัง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช
พฤติการณ์ เมื่อวันที่ 7 ต.ค.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านบริเวณใกล้เคียงว่านายธีระพงษ์ มีอาการคลุ้มคลั่ง และจะขับรถไปชิงตัวลูกวัย 7 ขวบ ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ม.1 ต.ควนพัง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช หลังมีปากเสียงทะเลาะกับภรรยา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. เกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำซ้อนเหมือนที่ จ.หนองบัวลำภู เมื่อวันที่ 6 ต.ค.65 ที่ผ่านมา จึงได้นำกำลังไปตรวจสอบโดยทันที
เมื่อพบรถยนต์กระบะคันต้องสงสัย เจ้าหน้าที่จึงได้ใช้รถยนต์เก๋งจอดประกบทางด้านขวา เพื่อแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจลงจากรถ นายธีระพงษ์ ได้ถอยรถยนต์กระบะไปชนกับรถยนต์กระบะของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกหนึ่งคันที่จอดปิดท้ายไว้ ทำให้รถยนต์กระบะได้รับความเสียหาย จากนั้นนายธีระพงษ์ ก็ได้ขับรถไปทางด้านหน้าพุ่งชนรถยนต์เก๋งของทางเจ้าหน้าที่ จึงทำให้รถยนต์ของ นายธีระพงษ์ ไม่สามารถขับต่อไปได้ นายธีระพงษ์ จึงเปิดประตูลงจากรถ ซึ่งจังหวะนั้นเองทางเจ้าหน้าที่สังเกตเห็นนายธีระพงษ์ ล้วงอาวุธปืนพกสั้นออกจากบริเวณเอวขวา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รีบเข้าชาร์จ จนสามารถควบคุมตัวเอาไว้ได้ จากการตรวจค้นพบของกลาง
- ยาบ้า 17 เม็ด
- อาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 มม. พร้อมเครื่องกระสุนปืน 10 นัด
- อาวุธปืนยาวเดี่ยวลูกกรด .22 พร้อมเครื่องกระสุน 5 นัด
- เครื่องกระสุนปืน .22 จำนวน 50 นัด
และยังพบผู้โดยสารนั่งข้างคนขับอีก 1 คือ นายเชาวลิต อายุ 33 ปี เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดของกลาง และนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.ร่อนพิบูลย์ ดำเนินคดีตามกฎหมาย จากการสอบถามผู้ต้องหารับว่าก่อนเกิดเหตุ ทั้งสองคนได้เสพยาบ้ามาเมื่อเช้า คนละ 2 เม็ด
ด้าน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ระบุว่า พฤติกรรมที่เกิดขึ้นนี้ เบื้องต้น เป็นลักษณะการ Copycat หรือพฤติกรรมเลียนแบบจากเหตุที่เกิดขึ้นในอดีต ซึ่งเมื่อวานนี้ก็เพิ่งเกิดเหตุสลดขึ้น โดยทางสอบสวนกลางเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยได้ ซึ่งทันทีที่ได้รับแจ้งจึงรีบสั่งการให้ตำรวจกองปราบปรามซึ่งอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุเข้าตรวจสอบทันที โดยขณะนั้นทางตำรวจ กก.5 บก.ป. กำลังทำกิจกรรมจิตอาสาบริเวณใกล้เคียงอยู่พอดี จนนำมาสู่การระงับเหตุได้ทัน
จากการตรวจสอบพบว่าคนร้ายมีการพกอาวุธปืนสั้น 1 กระบอก, ปืนยาว 1 กระบอก, กระสุนปืนอีกหลายนัด และยังพบยาบ้าอีก 17 เม็ด โดยภายหลังการเข้าควบคุมตัว และตรวจยึดของกลางแล้วได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป