หนุ่มไม่กลัวอาถรรพ์ จับปู่ตาโยนออกนอกศาลจนคอหัก โมโหมาเข้าฝันรบกวน ชาวบ้านสาปแช่งขอให้โดนหักคอ

เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 6 มีนาคม 2567 ขณะที่ ร.ต.อ.วิทยา ศิริเทพ รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังตำรวจสายตรวจออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบ รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่าสารวัตรกำนันตำบลหนองบัว และชาวบ้านควบคุมตัวชายหลอนยาบุกทุบรูปปั้นปู่ตา ที่ประดิษฐ์สถานอยู่ในศาลปู่ตาหน้าร้านขาย ถุงซิปล็อค ถุงซิป ข้างหนองน้ำสาธารณะบ้านดงอุดม ม.5 ต.หนองบัว จึงรุดออกไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบนายอุทัย พูลศิริ สารวัตรกำนันตำบลหนองบัว พร้อมกับชาวบ้านได้ช่วยกันควบคุมตัว นายพัฒนา อายุ 40 ปี คนก่อเหตุ หลังมีชาวบ้านเห็นทุบทำลายรูปปั้นปู่ตาช่วงบ่ายวานนี้ (5 มี.ค.67) ก่อนหลบหนีไปบ้านภรรยาในพื้นที่ ต.หนองนาคำ อ.เมืองอุดรธานี จึงไปควบคุมตัวมานายพัฒนาฯ ผู้ก่อเหตุมากราบขอขมารูปปั้นองค์ปู่ตา ที่จับรูปปั้นปู่ตาโยนออกจากศาล จนคอและแขน 2 ข้างแตกหัก รวมทั้งของเซ่นไหว้ภายในศาล ที่ชาวบ้านนำมาสักการะกราบไหว้ ก็ถูกนายพัฒนาฯ ทุบทำลายเสียหายกระจัดกระจายภายในศาล เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวสอบสวนที่โรงพัก

แต่นายพัฒนาฯ นั่งนิ่งเฉยและไม่ยอมให้การใดๆ ในเบื้องต้นตำรวจได้ตรวจหาสารเสพติดพบปัสสาวะเป็นสีม่วง จากการใช้สารเสพติด ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา “ทำให้เสียทรัพย์ และเสพยาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย” ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

น.ส.ศิรสา อายุ 18 ปี ชาวบ้านดงอุดม ที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตนพาลูกมาเล่นเครื่องเล่นในสวนหนองน้ำสาธารณะบ้านดงอุดม ที่อยู่ข้างศาลปู่ตาประจำทุกวัน พร้อมกับทำความสะอาดศาลปู่ตาด้วย ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ แต่เมื่อวานนี้ช่วงบ่ายเห็นคนก่อเหตุจับรูปปั้นปู่ตาโยนออกมาจากศาล และทุบทำลายสิ่งของหรือเครื่องเซ่นไหว้ที่อยู่ในศาล ตนก็ไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำ เพราะตนกับชาวบ้านในชุมชนให้ความเคารพบูชา และศรัทธาองค์ปู่ตาอย่างมาก ตนเห็นแล้วก็รู้สึกกลัว จากนั้นคนก่อเหตุก็มีอารมณ์เริ่มรุนแรงขึ้น ตนกับลูกจึงรีบขับรถหนีไป เพราะกลัวว่าจะเกิดอันตราย เพราะเขามีอาการเหมือนคนหลอนยา และพูดกับรูปปั้นปู่ตาว่า “ให้ไปบอกมันเลย” ก่อนจะโยนรูปปั้นปู่ตาลงกับพื้นข้างนอกศาลจนคอและแขนหัก

ส่วน น.ส.สุริยา อายุ 41 ปี ชาวบ้านดงอุดมอีกคน เล่าว่า ไม่รู้คนก่อเหตุไปโมโห หรือหงุดหงิดอะไรมาจากไหน ก่อนมาทุบทำลายสิ่งของในศาลปู่ตา และโยนรูปปั้นปู่ตาออกมาข้างนอกศาล โดยชาวบ้านให้ความเคารพศรัทธาต่อองค์ปู่ตาอย่างมาก ซึ่งถ้าเกิดพายุลมฝนพัดมา ชาวบ้านก็จะนำสิ่งของมากราบไหว้ให้ปู่ตาช่วยคุ้มครองคนในชุมชน ให้แคล้วคลาดปลอดภัย ทำให้ไม่เคยมีพายุรุนแรงพัดหลังคาบ้านพังเสียหายเลย ซึ่งเป็นความเชื่อความศรัทธาของตนและคนในหมู่บ้าน พอมีคนมาทำกับรูปปั้นปู่ตาแบบนี้ ตนก็รู้สึกเสียใจ ตนอยากให้เจ้าหน้าที่จัดการไปตามขั้นตอนของกฎหมาย อย่างเด็ดขาดไปเลย ซึ่งตนได้บอกกับปู่ว่า “ขอให้ไปตามหักคอคนที่ก่อเหตุ และตามไปอาฆาตไม่ให้อยู่เป็นสุข และถ้าติดคุกก็ขอให้ติดนานเป็น 20-25 ปีไปเลย เพราะมาทำกับสิ่งที่พวกตนเคารพนับถือ”

ขณะที่นายอุทัย พูลศิริ สารวัตรกำนัน ต.หนองบัว เล่าว่า หลังเกิดเหตุตนได้ให้ชาวบ้านออกความคิดเห็นว่า จะทำองค์รูปปั้นปู่ตาขึ้นมาใหม่ แต่ใช้เป็นรูปแบบเดิม เพื่อที่จะนำมาทดแทนองค์เก่า ซึ่งก็จะชี้แจ้งกับชาวบ้านให้ทราบรายละเอียด ตามที่ชาวบ้านออกความคิดเห็นมา หลังจากติดตามตัวคนก่อเหตุมาได้ แล้วเขาก็ยอมรับว่าทำกับรูปปั้นองค์ปู่ตาจริง โดยคนก่อเหตุอยู่ในชุมชนบ้านดงอุดม แต่มีพฤติกรรมก้าวร้าว และมีอาการหลอนยาประจำ และจัดอยู่ในกลุ่มผู้เสพยาติด (ยาบ้า) ”หากเขาได้เงินจากการทำงานมา ก็จะนำมาซื้อยาบ้าเสพ ซึ่งคนก่อเหตุอ้างว่า ที่ทำไปเพราะองค์ปู่ตาไปเข้าฝันจนทำให้รำคาญ เลยเกิดความโมโหเข้าไปทุบทำลายสิ่งของในศาล และจับรูปปั้นปู่ตาโยนออกจากศาลจนได้รับความเสียหาย หลังจากก่อเหตุเสร็จ เขาก็หลบหนีไปอยู่บ้านภรรยาที่ ต.หนองนาคำ ก่อนตนและชาวบ้านจะตามไปควบคุมตัวมาขอขมาองค์ปู่ตาที่ศาลแห่งนี้ ก่อนแจ้งตำรวจมาควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย