เปิดใจครั้งแรก เมรี คำภีร์ ลูกสาวคนสวยของ ปู-พงษ์สิทธิ์ คำภีร์เจ้าของโรงงานจำหน่าย ซองเอกสาร / ซองใส่เอกสาร ขอเคลียร์ใจดราม่า รัก เลิก แฉ งัดหลักฐานสู้ตอบโต้ดุเดือดกับอดีตแฟนนักร้องหนุ่ม พร้อมเปิดความรู้สึกหลังเห็นโพสต์ขอโทษของอีกฝ่าย เรื่องนี้จะจบยังไง มีโอกาสคืนดีไหม ทั้งหมดนี้ในรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องOne31 ที่มี ธัญญ่า ธัญญาเรศ และ เบนซ์ พรชิตา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
ย้อนไปจุดเริ่มต้นกับอดีตคนรัก?
เมรี : เขาเป็นเพื่อนของรุ่นพี่ กรุงเทพคริสเตียน ติดต่อมา คบกัน ปกติ คบมา 1 ปี แล้วก็เกิดเรื่องที่ทุกคนเห็นกัน ซึ่งถามว่าเราตัดสินใจนานไหม ก็ตั้งแต่กลางเดือน ธค แล้ว ไม่ได้บอกพ่อบอกแม่ เพราะปัญหาระหว่างหนูกับเขา ปัญหามันเกิดขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแตาตอนทำเอ็มวีด้วยกัน สุดท้ายก็ได้เลิกกัน ถามว่าตัดสินใจนานไหม ว่าจะบอกทุกคนยังไง ตอนลงไม่ได้บอกทุกคน ลงเพื่อวันนึงลูกมาดู นี่มันคือยุคโซเซียล วันนึงลูกก็ต้องรู้ว่าใครคือพ่อ ลูกจะได้เห็นคลิปนี้
ที่โพสต์ ไม่ได้ตามหาพ่อ?
เมรี : ไม่ได้โพสต์ตามหาพ่อเลย เพราะแทบจะไม่พูดถึงเขาเลย มีแต่พูดกับลูก
ในโซเชียลมันจะมีทั้งคนที่เห็นใจและคนที่อาจจะมองในแง่ลบ เขาอาจจะมองว่าน้องเมอาจจะโพสต์ไปเพื่อให้คนไปถล่มคนรักเก่า?
เมรี : ถ้าพูดแบบตามความรู้สึกจริงๆ มันก็เป็นสิ่งที่เขาควรจะได้รับอยู่แล้ว แต่ว่าเจตนาของเมมันไม่ใช่ ไม่ได้คิดไปถึงขนาดนั้นเลย เมคิดน้อยด้วยซ้ำ เพราะว่าเราลืมไปว่าเขาก็เป็นคนดัง เราก็เป็นลูกพ่อ แล้วอีกอย่างเจตนาที่เมตั้งใจลงคลิปวันนั้น เพราะมันมีข่าวนักร้อง จริงๆ หนูตั้งใจนะ เพราะว่าอยากให้ข่าวเขากลบหนู มันจะได้ดูเบาหน่อย แต่กลายเป็นว่าดังกว่า มันก็เลยผิดแผนไปหน่อย ตอนนั้นหนูมองว่าท้องเริ่มออกแล้ว จะให้ปิดไปตลอดมันก็ไม่ได้ รู้สึกว่ามันจะต้องเปิดแล้ว
หลังจากที่เราลงไปแล้ว ชาวเน็ตก็ไปขุดคุ้ยกันว่าหนุ่มคนนี้เขาก็มีประวัติไม่ดีมาก่อน รู้หรือเปล่า หรือว่ารู้แล้วทำไมยังไปคบ?
เมรี : เขาเตือนเมมาตั้งแต่คบแรกๆ แล้ว โดนคนนู้น คนนี้เตือน ชาวเน็ตก็เตือนมาตลอด แต่เขาดีมากนะ ตอนที่คบกัน หมายถึงว่าเขาก็ดี ซื่อสัตย์นะ ไม่มีเรื่องผู้หญิง จนสุดท้าย ตอนจบมันก็อีกเรื่องนึง แต่ระหว่างทางมันดีมาตลอด หนูก็มองว่าเขาคงโตแล้วแหละ เพราะเขาก็ 35 เรื่องราวเก่าๆ ก็สมัยเขายังเด็ก อีกอย่างหนูเห็นตอนที่เขาดูแลลูกของเขา หนูก็เห็นเขาเป็นพ่อที่ดีคนนึง ไม่ใช่ว่าไม่ดี หลายๆ อย่างของเขาจริงๆ มันดี ไม่ได้แย่ไปซะหมด
แล้วอะไรที่ทำให้ตัดสินใจว่าจะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว?
เมรี : เพราะช่วงหลังมันไม่ดี มันชัดเจนว่าเขาแปลงร่างแล้ว ไม่ใช่ร่างเดิมแล้ว ไม่ใช่คนเดิม ที่ตัดสินใจเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว นอกจากจะกลัวว่าถ้าลูกอยู่ตรงนี้ อยู่ในสภาพแวดล้อมนี้ อยู่กับครอบครัวนี้มันจะกลายเป็นเด็กมีปัญหา แต่เมกลัวว่าเขาจะซึมซับนิสัยเหล่านั้นมามากกว่า เพราะเขาอารมณ์รุนแรง เมกลัวเขาจะติดนิสัยหรือซึมซับอะไรเหล่านั้นมา
เรามีแบบอยากโทรไปกลับมาเป็นครอบครัวได้ไหม?
เมรี : อีกเหตุผลที่ตัดสินใจเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เพราะว่าหนูผ่านจุดนั้นมาแล้ว ผ่านจุดที่ไปตามเขา ซึ่งมันแย่มาก รู้สึกว่าพอ แรงเกินไปแล้ว ไม่ไหว ไปสุดแล้ว
ใช้เวลากับตรงนี้นานไหมที่บอกว่าพอแล้ว เราพยายามมามากพอแล้ว?
เมรี : นั่นแหละประมาณ 3 อาทิตย์ ตามประมาณ 1 อาทิตย์ แต่ตัดสินใจอีก 2 อาทิตย์ที่เหลือ อยู่กับตัวเอง อยู่คนเดียว
หลังจากนั้นเขามีการโพสต์แชทมาสู้กลับ รู้สึกยังไงบ้าง?
เมรี : โกรธอยู่แล้วแหละที่แชทมันมาไม่ครบ แต่ที่เสียใจกว่าคือ ทำไมทำร้ายกันอีก เพราะว่าก่อนหน้านี้ที่หนูลงคลิปไป หนูก็บอกว่าให้ลูกดู อย่างต้นคลิปหนูก็มีการไปอัดเพิ่ม แก้ข่าวให้เขาในบางเรื่อง ทุกอย่างคือหนูปกป้องเขาด้วยซ้ำ แต่พอมันเกิดประเด็นมาหนักกลายเป็นว่าเขาก็มาลงที่หนูอีกแล้ว มาใส่ที่หนูอีกแล้ว หนูเลยรู้สึกว่าพอแล้ว ทำร้ายเมพอแล้วมั้ง ตอนนั้นคือเสียใจเรื่องนี้มากกว่า
เวลาเขาเปิดแชทมา แต่แชทมาไม่ครบ เราก็รู้สึกแป๊บนึงที่ถูกต้องมันต้องแบบนี้?
เมรี : ใช่ ถ้าอารมณ์ตอนนั้นไม่มีสติสัมปชัญญะละ เมบอกได้ รอแป๊บ เมไลฟ์เลยทันที ไม่คิดหน้า คิดหลัง แต่จริงๆ เมอัดคลิปไว้แล้ว คำพูดอะไรเหมือนกัน แต่มีสติกว่า คำพูดจะเย็นกว่า แต่ยังไม่ได้ลง วันนั้นก็เป็นเวอร์ชั่นที่อารมณ์ล้วนๆ
พอไลฟ์ออกไปด้วยอารมณ์นั้นกระแสเป็นไงบ้าง?
เมรี : เอาจริงก็ดูแย่แหละ เราก็ดูแบบใช่ย่อยที่คนเขาว่ากัน ฝั่งผู้หญิงก็ใช่ย่อย
เห็นว่าทางผู้ใหญ่มีการบอกให้หยุด?
เมรี : จริงๆ เขาบอกให้หยุดตั้งแต่ก่อนเหตุการณ์ไลฟ์ด้วยซ้ำ ให้อยู่นิ่งๆ แต่พอมันเกิดเรื่องนี้หนูหยุดไม่อยู่
ผู้ใหญ่นี่ทางที่บ้านไหม?
เมรี : ใช่ค่ะ คุณพ่อ พ่อจะบอกผ่านแม่มา เขาไม่คุยกับหนู
เขาอยากให้เราเงียบเพราะว่าอะไร เขาบอกไหม?
เมรี : จริงๆ มันเป็นสิ่งที่เขาสอนตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว เพราะหนูเกิดมาในครอบครัวที่พ่อเป็นคนดัง เขาจะสอนตลอดด้วยคำว่านิ่ง เงียบ แต่หนูเป็นคนเดียวที่ไม่เคยทำได้เลย
จากวันนั้นถึงวันนี้ที่คุณพ่อบอกให้นิ่งเงียบ หนูยังไม่ได้เจอคุณพ่อ?
เมรี : ยังค่ะ
ได้คุยบ้างหรือยัง?
เมรี : คุยผ่านแม่
คิดไหมว่าต้องหาวิธีคุยกับพ่อให้ได้ หรือเดี๋ยวก่อน?
เมรี : น่าจะก่อนเหตุการณ์ที่เขาโพสต์แชท มีส่ง sms หาพ่อว่า พ่อเมขอโทษนะ เมรักพ่อนะ ซึ่งวันนั้นก็เลยทำให้พ่อโทรหาแม่ ซึ่งก่อนหน้านี้พ่อก็ไม่โทรหาแม่ด้วยเหมือนกัน เขาก็บอกแม่ว่ามันเกิดขึ้นแล้ว ก็ต้องเลี้ยง ต้องดูแลกันไป ไม่เป็นไร แต่ยังไม่ได้มาคุยกับหนู
เรามีแพลนไหม ถ้าเจอพ่อจะพูดกับเขาว่ายังไง?
เมรี : หนูแพลนเอาไว้หลายแบบมากเลย
พ่อดุไหม?
เมรี : จริงๆ พ่อไม่ดุ แต่พ่อนิ่ง เงียบ ซึ่งอันนี้น่ากลัวที่สุด
ถ้าพ่อดูอยู่มีอะไรบอกพ่อไหม?
เมรี : รักพ่อนะ ขอโทษที่ทำให้ผิดหวัง และขอบคุณที่ซัพพอร์ตกัน
พี่สาวลงให้กำลังใจน้อง?
เมรี : ค่ะ ซึ่งจริงๆ เมกับพี่สาวไม่คุยกันมาเกือบปีแล้วนะ ทะเลาะกัน แต่สุดท้ายก็กลับมาคุยกับหนู เพราะเรื่องนี้
จริงๆ เราได้คุยกับพ่อโดยการประชุมสาย?
เมรี : มันไม่เชิงประชุมสาย คือคุยกับแม่แล้วหนูอยู่ข้างๆ คือคุยสิ่งที่จะตกลงกับทางนู้นเรื่องลูก
แสดงว่าระหว่างที่เกิดเรื่อง บ้านเราก็คุยกับทางนู้นเหมือนกัน?
เมรี : เพิ่งคุยหลังจากที่เขาโพสต์แชท ก่อนที่เขาจะโพสต์ขอโทษ
แล้ววันที่เขาโพสต์ขอโทษเห็นแล้วรู้สึกยังไงบ้าง?
เมรี : หนูไม่กล้าตอบตอนนี้เลย กลัวอารมณ์ หนูก็รับคำขอโทษแหละ ก็ขอบคุณที่อย่างน้อยในการขอโทษของเขายังเอ่ยความจริงในบางเรื่องออกมา แต่ถ้าอยากขอโอกาสมาทำหน้าที่พ่อ ยังก่อน ยังไม่อยากตอบเรื่องนี้ ยังไม่อยากตอบตอนที่ยังใช้อารมณ์อยู่
หลังจากที่เขามีการโพสต์ขอโทษ ก็มีชาวเน็ตมาฟาดกลับว่าเป็นหนังคนละม้วน พอเราเห็นแล้วเรารู้สึกยังไงบ้าง?