ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี ยื่นมือช่วยเหลือครอบครัวถูกยึดบ้าน-ที่ดิน ประกาศขายตา-ไต เพราะค้ำประกันให้เพื่อนรัก เรียกทุกฝ่ายเข้าเจรจา ก่อนจบลงด้วยดี ให้ผู้เช่าซื้อส่งคืนรถแทรกเตอร์และจ่ายเงินส่วนที่เหลือ

จากกรณี นายรักษ์เทวา พนักงานจ้างตำแหน่งผู้ช่วยนักทรัพยากรบุคคล องค์การบริหารส่วนตำบลเจียด อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี วัย 48 ปี ซึ่งไว้ใจเพื่อนซึ่งเป็นตำรวจ ไปค้ำประกันรถแทรกเตอร์ให้ภรรยาของเพื่อนคนดังกล่าว

สุดท้ายถูกฟ้องยึดบ้านที่ดินขายทอดตลาด จึงตัดสินใจประกาศขายดวงตาและไต หรืออวัยวะอะไรก็ได้ในร่างกาย ยกครอบครัว เพื่อหาเงินไถ่บ้านโรงเลี้ยงสัตว์ร้านขายถุงห่อมะม่วง ถุงห่อผลไม้ และที่ดิน 9 ไร่ 2 งาน 46 ตารางวา ที่กำลังจะถูกขายทอดตลาดในวันที่ 16 ต.ค.นี้

เพื่อนรักทำช้ำใจ ประกาศขายตา-ไต ยกครอบครัว แลกเงิน 8.6 แสน จะซื้อบ้านคืน
โดยเมื่อช่วงเช้าวานนี้ (14 ต.ค.) นายรักษ์เทวา พร้อมภรรยาและลูก 2 คน ได้เดินเท้าฝ่าสายฝนจากบ้านพัก หมู่ที่ 8 ต.ขามป้อม อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี เพื่อจะเดินทางเข้าจังหวัดอุบลฯ ไปร้องขอความช่วยเหลือจากผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ระยะทางกว่า 100 กิโลเมตร ท่ามกลางชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างมาดักรอให้กำลังใจตลอดเส้นทาง

ต่อมาช่วงสายวันเดียวกันนายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วยผู้อำนวยการสำนักงานยุติธรรมจังหวัด, สำนักงานบังคับคดี, นิติกร ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุบลฯ ทราบข่าวจึงได้เดินทางมาพบนายรักษ์เทวา และครอบครัวที่กำลังเดินฝ่าสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก

โดยผู้ว่าฯ ได้ให้เจ้าหน้าที่เชิญครอบครัวนายรักษ์เทวา เพื่อรับเรื่องและสอบถามถึงความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น และสั่งการให้นำนางจุไรรัตน์ ผู้เช่าซื้อรถแทรกเตอร์พร้อมสามีคือ ด.ต.มานิตย์ มาที่สำนักงานเทศบาลตำบลหัวนา อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี เพื่อพูดคุยกัน

นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า จากการพูดคุยกับผู้เช่าซื้อรถแทรกเตอร์รับว่าพร้อมที่จะคืนรถแทรกเตอร์คันดังกล่าวให้กับบริษัท ดังนั้นหนี้ทั้งหมดก็เป็นอันยุติลงตามคำพิพากษาของศาลจะเหลือเพียงค่าธรรมเนียม อาจจะมีจำนวนไม่มากนัก ทางครอบครัวผู้เช่าซื้อก็พร้อมที่จะมาดูรายละเอียดว่าจะชำระเงินที่เหลืออย่างไร

ซึ่งถ้าเป็นลักษณะอย่างนี้ทางสำนักงานบังคับคดีได้ประสานทางโทรศัพท์ไปพูดคุยกับบริษัทที่เป็นผู้ยื่นให้สำนักงานบังคับคดีขายทรัพย์ จากการพูดคุยทางบริษัทก็ยินดีที่จะรับจะส่งคืนตัวรถแทรกเตอร์คืน ซึ่งก่อนหน้านี้ทางบริษัทแจ้งว่าหารถไม่เจอ แต่วันนี้ยืนยันว่ารถยังอยู่

ตนได้สั่งการให้สำนักงานบังคับคดีลงไปทำรายละเอียดข้อมูลต่างๆ เพื่อจะให้ทางบริษัทพิจารณายกเลิกประกาศการขายทอดตลาด ซึ่งกำหนดจะประกาศขายบ้านพร้อมที่ดินในวันที่ 16 ต.ค. นี้ ถ้ากรณียกเลิกหนี้ทั้งหมดค่าของตัวรถคืนเป็นเงิน 8 แสนบาท หนี้ก็หมดไป ดังนั้นความเดือดร้อนก็ผ่อนคลายลงแล้ว

และจะสั่งการให้สำนักงานบังคับคดีดูแลเรื่องนี้ให้เสร็จสิ้นเรียบร้อย ดังนั้นผู้ที่จะเดือดร้อนที่จะขายไตและตายกครอบครัว ตอนนี้ไม่ต้องทำอย่างนั้นแล้ว ทางจังหวัดจะหาทางแก้ไขปัญหาให้เสร็จสิ้นเรียบร้อยโดยไม่มีการเดือดร้อนใดๆ ทั้งสิ้น

ด้าน นายรักษ์เทวา กล่าวภายหลังพบผู้ว่าราชการจังหวัดว่า “ต้องกราบขอบพระคุณท่านผู้ว่าราชการจังหวัดที่ท่านได้เดินทางมาช่วยเหลือครอบครัวผม ซึ่งถือว่าได้รับการช่วยเหลือคลี่คลายในระดับหนึ่ง ทางสำนักงานบังคับคดีก็จะดำเนินการช่วยเหลือประสานงานให้บริษัทมารับรถแทรกเตอร์คืน

แต่ทางครอบครัวก็ยังไม่มั่นใจในความปลอดภัย เพราะว่าถ้าคู่กรณีจบ ครอบครัวผมก็สบายใจ เพราะที่ผ่านมาเคยถูกข่มขู่มาตลอดก็ยังไม่สนิทใจในความปลอดภัย”