เผยปมแค้นฝังใจนาน 4 ปี ถูกลูกค้าโพสต์ประจานงานรับเหมา สาวชวนแฟนหนุ่มส่งจดหมายจีบตอนติดคุก บุกจ่อยิงสองแม่ลูกเสียชีวิต ตำรวจเผยหลักฐานมัดดิ้นไม่หลุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (17 พ.ค.) ช่วงสายวันนี้ ตำรวจภูธรภาค 5 มีการแถลงข่าวความคืบหน้า หลังจับกุม นางสาวจรัสพร อายุ 36 ปี และ นายอนันต์ อายุ 54 ปี สองสามีภรรยาที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนจ่อยิง นางศรีวรรณ อายุ 45 ปี ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งที่บ้านผาน้ำย้อย และ ด.ญ.พิชญา อายุ 8 ปี ลูกสาว เสียชีวิตในหมู่บ้านผาน้ำย้อย หมู่ 5 ต.พญาแก้ว อ.เชียงกลาง จ.น่าน เมื่อวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา
พล.ต.ต.สุรพล เปรมบุตร ผู้บังคับการกองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า แม้หลังจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองจะให้การปฏิเสธ แต่ชุดสืบสวนได้หาเบาะแสและรวบรวมพยานหลักฐาน โดยเฉพาะภาพจากกล้องวงจรปิดที่ปรากฏภาพผู้ต้องหาทั้งสองคน ขับรถยนต์กระบะยี่ห้อมาสด้า รุ่นบีที 50 สีบรอนซ์เงิน ตามเส้นทางไปยังบ้านของผู้เสียชีวิต และจุดที่พบทรัพย์สิน รวมทั้งโทรศัพท์มือถือของผู้ตาย ที่ผู้ก่อเหตุขโมยไปหลังก่อเหตุ ทำให้ผู้ต้องหาทั้งสองจำนนต่อหลักฐาน
ขณะที่การสอบปากคำ นางสาวจรัสพร รับว่าเป็นคนลั่นไกยิงสองแม่ลูกด้วยมือตัวเอง โดยมีนายอนันต์ สามีเป็นคนขับรถและคอยช่วยเหลือในด้านต่างๆ
นางสาวจรัสพร ให้การในชั้นสอบสวนว่าในปี 2532 นายอนันต์เป็นทหารพรานที่จังหวัดปัตตานี ต่อมาได้ก่อเหตุฆ่าตำรวจตาย ทำให้ติดคุกนานกว่า 23 ปี ตั้งแต่ปี 2536 ก่อนพ้นโทษออกมาเมื่อปี 2559
ส่วนตนเองอดีตเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง เมื่อปี 2557 ได้มารับเหมาสร้างบ้านให้นางศรีวรรณ ผู้ตาย แต่ภายหลังเกิดขัดแย้งกันเรื่องการก่อสร้างบ้าน ทั้งประเด็นการสร้างบ้านที่ล่าช้า เงินค่างวด และ หลังส่งมอบงานปรากฏว่างานไม่เรียบร้อย
ทำให้นางศรีวรรณโพสต์ประจานตนเองในโซเชียลมีเดีย จนข่าวแพร่สะพัดออกไปทำให้ประสบปัญหา ถูกยกเลิกงานรับเหมาและไม่มีคนว่าจ้าง จนประสบปัญหาทางการเงิน ทำให้ต้องไปก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทองใน จ.สระแก้ว แต่ถูกจับกุมตัวได้และติดคุกก่อนจะพ้นโทษออกมาเมื่อเดือนมกราคม 2562
โดยระหว่างที่นางสาวจรัสพรอยู่ในเรือนจำ นายอนันต์ซึ่งรู้จักกับนางสาวจรัสพรและเห็นข่าวว่าถูกจับเพราะไปชิงทรัพย์ร้านทอง ได้เขียนจดหมายติดต่อมาเพื่อให้กำลังใจ จนทั้งสองเกิดความรักต่อกัน
หลังนางสาวจรัสพรพ้นโทษ จึงได้มาอยู่กินกับนายอนันต์และเปิดร้านขายอุปกรณ์แพ็คสินค้า เช่น สติกเกอร์ใบปะหน้า สติ๊กเกอร์ Label ช่วยกันทำมาหากิน แต่ด้วยความแค้นที่มีกับนางศิริวรรณอยู่เต็มหัวอก จึงได้เดินทางกลับมาที่ จ.น่าน โดยให้นายอนันต์ขับรถมาส่งเท่านั้น ไม่มีส่วนรู้เห็นในการก่อเหตุครั้งนี้ ซึ่งนางสาวจรัสพรขอยอมรับผิดเพียงคนเดียว
พล.ต.ต.สุรพล กล่าวว่า แม้นางสาวจรัสพรจะให้การว่าลงมือก่อเหตุเพียงคนเดียว ส่วนนายอนันต์ไม่มีส่วนร่วม แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อและจะคำให้การพร้อมพยานหลักฐานประกอบในสำนวน เพื่อส่งให้พนักงานอัยการพิจารณาสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 2 คนต่อไป โดยเจ้าหน้าที่มั่นใจในพยานหลักฐานที่มีว่าจะสามารถดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งสองตามกฎหมายได้