นายวชิรวิทย์ ให้การต่อว่า หลังผ่านไปสองชั่วโมง ตนเองพยายามโทรหาภรรยาหลายครั้ง โทรติดแต่ก็ไม่ยอมรับสาย ตนเองจึงโทรไปหาลูก จึงรู้ว่าต้องอยู่กับนายบุญกร แน่นอนจึงตัดสินใจดึงสายน้ำเกลือออก แอบเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วหนีออกจากโรงพยาบาล เดินทางมาที่บ้านเกิดเหตุทันที ซื้อมีดคัตเตอร์ติดตัวมาด้วย พอมาถึงก็เดินเข้าไปแอบดูในห้องนอนภรรยา เมื่อเห็นภาพบาดตาบาดใจ ที่ปรากฎในห้องก็แทบยืนไม่อยู่ ภรรยาอยู่ในภาพเปลือยเปล่านอนกอดกับนายบุญกรที่ใส่กางเกงบ็อกเซอร์ตัวเดียวอยู่บนเตียง พยายามระงับอารมณ์ยืนดูพฤติกรรมของคนที่เป็นแม่ของลูก เป็นเมียของเรา
ผ่านไปประมาณสิบนาที ความอดทนก็ถึงขีดสุด จึงบุกเข้าไปในห้องชักคัตเตอร์แทงใส่นายบุญกรไม่ยั้ง จนเลือดสาด ก่อนจะหนีออกไปได้ ส่วนภรรยาก็รีบสวมใส่เสื้อผ้า แล้ววิ่งออกไปนอกห้อง และ ไม่ยอมพูดอะไรทั้งนั้น เพราะรักมันมากจึงไม่คิดจะทำร้าย ยอมทุกอย่าง ยอมเจ็บจนป่วยซึมเศร้า สงสารก็แต่ลูก ถึงไม่ใช่ลูกแท้ๆ ที่ต้องมารับรู้ในสิ่งที่เด็กไม่ควรรู้ ขอยอมรับผิด ยินดีรับโทษที่ได้ทำลงไป เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการสอบสวนเบื้องต้น และ ให้พักสงบสติอารมณ์ก่อน โดยควบคุมตัวไว้ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป