“บิ๊กโจ๊ก” เผย จ่อแจ้งข้อหา “รองผู้การ-ผกก.” รีดเงินแก๊งค้ายาเสพติด

รองผบ.ตร.เตรียมแจ้งข้อหา “รองผู้การ-ผกก.”ในจังหวัดพิจิตร หลังพบเรียกรับผลประโยชน์ สั่งเพิกถอนอายัดบัญชีเงินกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดกว่า 176 ล้านบาท หลังผู้ต้องหาชาวจีนที่จับได้ซัดทอดว่าให้ตำรวจช่วยเหลือ

พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และเจ้าของร้านขาย ถุงฝาเกลียว ถุงบรรจุของเหลว เปิดเผยความคืบหน้าผลการสอบสวนคดีอายัดบัญชีธนาคารเป็นเงินกว่า 176 ล้านบาท ในพื้นที่ สน.ทองหล่อ ซึ่งเป็นบัญชีของชายชาวเมียนมาที่เสียชีวิตไปแล้ว และบัญชีดังกล่าวถูกอายัดไว้เป็นเวลานานหลายปี เนื่องจากพบเส้นทางการเงินเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติด

ต่อมาพบข้อมูลว่า มีข้าราชการตำรวจระดับผู้กำกับการสถานีตำรวจแห่งหนึ่งในจังหวัดพิจิตร สั่งเพิกถอนการอายัดบัญชี และมีกลุ่มบุคคล พาชายชาวจีนอ้างเป็นเจ้าของบัญชีไปขอทำสมุดบัญชีใหม่ โดยอ้างว่าเล่มเก่าหาย แต่จากการตรวจสอบของธนาคารพบว่าไม่ใช่เจ้าของบัญชีตัวจริง จึงแจ้งตำรวจ สน.ทองหล่อ เข้าจับกลุ่มบุคคล 6-7 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นสูตินรีแพทย์ชื่อดังระดับประเทศ ตกเป็นผู้ต้องหาร่วมกันพยายามลักทรัพย์และใช้ตราสัญลักษณ์ปลอม

พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ยังระบุว่า การสืบสวนสอบสวนพบมูลความผิดว่า “ผู้กำกับการ” นายนี้มีการเรียกรับผลประโยชน์จากกลุ่มผู้ต้องหา จากการเพิกถอนบัญชี ส่วนรายละเอียดว่าเรียกเงินไปจำนวนกี่บาท ยังไม่ขอเปิดเผย นอกจากนี้ยังพบว่า “รองผู้บังคับการ” ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของ ผู้กำกับนายนี้ มีส่วนเกี่ยวข้องและรู้เห็น จึงเตรียมสรุปสำนวนพร้อมแจ้งข้อหากับผู้กำกับการและรองผู้บังคับการภายในสัปดาห์หน้า

ส่วนกรณีของ ผู้กำกับการในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ มีคำสั่งอายัดบัญชีของผู้ต้องหาในคดีต่างๆ กว่า 900 บัญชี และอยู่ระหว่างการตรวจสอบถึงสาเหตุการอายัดบัญชีจำนวนมาก พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีคำสั่งให้ผู้กำกับการนายนี้เข้ามาช่วยราชการที่สโมสรตำรวจแล้ว และสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายหากพบมีการกระทำความผิด