งงกันทั้งงานแต่ง ชายแต่งตัวปอนๆ มาร่วมงานวิวาห์ ก่อนขึ้นเวทีไปมอบซองแดงให้คู่บ่าวสาว ที่แท้เป็นพ่อเจ้าสาว เพิ่งรู้ลูกแต่งงานจากปากคนอื่น

เมื่อเร็วๆ นี้ สังคมออนไลน์จีนถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่กับคลิปของชายแต่งตัวปอนๆ ที่จู่ๆ ก็ปรากฏตัวในงานแต่งงานของลูกสาว

รายงานข่าวระบุว่า ชายคนนี้อายุ 60 ปี สวมเสื้อยืดเก่าขาดๆ หลังเต็มไปด้วยเหงื่อ และเท้าของเขาสวมรองเท้าแตะ ใบหน้ามีริ้วรอยของความแก่ชรา แต่ยังคงมีรอยยิ้มสดใส เดินไปยังเวทีงานแต่งงานอย่างรวดเร็ว

ชายคนนี้มอบซองแดงที่ถืออยู่ในมือให้เจ้าบ่าวเจ้าสาว ฉากนี้ทำเอาทุกคนถึงกับสงสัยว่าเขาคือใคร

แท้จริงแล้ว ชายคนดังกล่าวคือพ่อแท้ๆ ของเจ้าสาว แม้ว่าลูกสาวของเขาจะแต่งงาน แต่เขาได้รู้ข่าวดังกล่าวผ่านเพื่อนร่วมชั้นของลูกสาว เมื่อเขามาร่วมงานแต่งงาน เขาก็ดูอย่างเงียบๆ โดยไม่มีคำตำหนิ

เพื่อนบ้าน เล่าว่า นายสี (นามสมมุติ)อดีตพนักงานโรงงานผลิต เชือกมัดกล่องพัสดุ เชือกขาวเกลียว กำพร้าพ่อแม่ และเติบโตมาภายใต้การดูแลของลุงของเขา เนื่องจากครอบครัวยากจน เขาแต่งงานกับผู้หญิงที่มีปัญหาทางจิต เมื่อเขาอายุเกือบ 40 ปี หลังจากแต่งงาน ภรรยาของเขาได้ให้กำเนิดลูกสาว และตั้งชื่อว่า หลิน (นามสมมุติ) ซึ่งก็คือเจ้าสาวในงานแต่งนี้

ภรรยาของนายสีเสียชีวิตในอุบัติเหตุเมื่อหลินอายุเพียง 2 ขวบ นายสีต้องการให้ลูกสาวมีอนาคตที่สดใส เขาทำงานหนักเพื่อที่เธอจะได้เรียนต่อ

หลินเองมักจะถูกเพื่อนล้อเลียนเกี่ยวกับภูมิหลังของครอบครัว ดังนั้นหลังจากเรียนจบมัธยมปลาย เธอจึงออกจากบ้านเกิดไปทำงานในเมืองใหญ่

ไม่กี่ปีต่อมา หลินได้พบกับ เถิ่ง (นามสมมุติ) เจ้าบ่าว ที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับอดีตของหลิน ยกเว้นว่าเธอเป็นลูกคนเดียวและแม่ของเธอเสียชีวิตไปแล้ว ในช่วงเวลาที่ออกเดทกัน หลินก็ไม่ได้พูดถึงพ่อของเธอ เมื่อทั้งสองกำลังจะแต่งงาน คู่หมั้นของเธอยังขอให้เธอพาเธอไปพบพ่อผู้ให้กำเนิด แต่เธอปฏิเสธ

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเธอจะรู้สึกอับอายเกี่ยวกับภูมิหลังครอบครัวของเธอ แต่หลินก็ยังส่งเงินกลับบ้านเป็นประจำ และโทรศัพท์ไปหาพ่อของเธอบ่อยๆ

ขณะที่ นายสี รับรู้ความรู้สึกของลูกสาวดี เขาไม่ต้องการปรากฏตัวในงานแต่งงานเพื่อทำให้ลูกสาวอึดอัดใจ แต่เพราะเขาอยากรู้ว่างานแต่งของลูกสาวเป็นอย่างไร เขาจึงเข้าร่วมอย่างเงียบๆ เขาไม่ได้มีเจตนาจะจัดฉากเพื่อให้ลูกสาวยอมรับความเป็นพ่อ ส่วนเหตุผลที่เขาขึ้นเวทีเพราะเขาถูกฝูงชนยุยง หลังจากรู้ว่าเขาเป็นพ่อของเจ้าสาว

ทันทีที่เรื่องราวดังกล่าวถูกโพสต์ทางออนไลน์ ชาวเน็ตหลายคนวิจารณ์เจ้าสาวว่าเธอไม่มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ไม่ว่าพ่อจะจนแค่ไหน พ่อก็พยายามเลี้ยงดูลูกให้เป็นคนดี คนทั้งโลกอาจดูถูกเขา แต่คนเป็นลูกต้องไม่ทำเช่นนั้น การที่เธอปกปิดการแต่งงานของตัวเองกับพ่อ ทำให้เกิดบาดแผลทางใจกับเขา