ผู้เสียหายร้องกองปราบ ถูกหมอดูตุ๋นเงินค่าทำพิธีราว 10 ล้านบาท พบเป็นแฟนคลับไอดอลซีรีส์วาย ด้านเหยื่อสงสัยว่าเงินที่ซื้อของให้ไอดอลเป็นเงินหลอกจากผู้เสียหายหรือไม่ ทนายรณณรงค์จี้ศิลปินชี้แจง

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 22 กรกฎาคม ที่ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมด้วยกลุ่มผู้เสียหายนำหลักฐานแชตและเลขบัญชี เข้าพบ พ.ต.อ. มิ่งมนตรี ศิริพงษ์ ผกก.กลุ่มงานสอบสวน บก.ป. เพื่อยื่นหนังสือเรื่องร้องเรียน ต่อ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ให้ดำเนินคดีกับหมอดูออนไลน์ “บัว นาคา” หลังถูกหลอกให้โอนเงินในการทำพิธีแก้กรรมโดยมีความเสียหายรวมกว่า 10 ล้านบาท

นายรณณรงค์ เปิดเผยว่า วันนี้มาแจ้งความดำเนินคดีกับหมอดูออนไลน์ “บัว นาคา” ซึ่งมีผู้เสียหายติดต่อตนมาหลายรายว่าถูกหลอกให้โอนเงินเป็นค่าสวดทำพิธีบางรายถึงขั้นไม่มีเงินค่าผ่าคลอด ไปจนถึงรักษาแม่ โดยถูกหลอกให้โอนเงินค่าทำพิธีแก้กรรม โดยหมอดูคนดังกล่าวอ้างว่าจะให้เงินคืน แต่สุดท้ายกลับไม่โอนเงินคืนให้ นอกจากนี้ เหยื่อบางรายยังตกเป็นบัญชีม้า ถูกนำบัญชีไปใช้รับเงินจากเหยื่อรายอื่น อีกทั้งหมอดูคนดังกล่าวยังเคยถูกดำเนินคดีในเรื่องเท้าแชร์อีกด้วย โดยขณะนี้สามารถรวบรวมผู้เสียหายได้ถึง 50 คน และมีการส่งข้อมูลมาให้แล้ว 35 คน คาดว่ามูลค่าความเสียหายถึง 10 ล้านบาท

ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ในสังคมออนไลน์ได้มีการแชร์ข้อมูลว่าหมอดูคนดังกล่าวชื่นชอบศิลปิน 2 นักแสดงคู่ขวัญจากซีรีส์วาย และมีการนำทรัพย์สินไปมอบให้ศิลปินบ่อยครั้ง จึงทำให้มีข้อสงสัยว่าเป็นเงินหลอกจากผู้เสียหายหริอไม่ ซึ่งต้องไปตรวจสอบเส้นทางการเงิน รวมถึงตัวศิลปินเองก็ควรที่จะออกมาชี้แจงด้วยเพื่อความบริสุทธิ์ใจ

ด้าน น.ส.หนิง (นามสมมติ) อายุ 53 ปี เปิดเผยว่า เห็นเพจหมอดูคนดังกล่าวจากเพื่อน ด้วยความอยากลอง จึงให้หมอดูทำนายในเรื่องอาการป่วยของคนในครอบครัว ซึ่งก็ทำนายถูก และได้ชักชวนให้ตนทำพิธีสวดแก้กรรม โดยต้องโอนเงิน 88,888 บาทเพื่อใช้ประกอบพิธี แล้วจะโอนคืนมาให้ แต่ได้ปฏิเสธไป ต่อมาเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมา ตนมีความทุกข์ จึงหาทางแก้และปรึกษาหมอดูคนดังกล่าวอีกครั้ง ซึ่งหมอดูได้ชักชวนให้ทำพิธีสวดแก้กรรม และใช้เงินจำนวนเท่าเดิมประกอบพิธี จึงโอนเงินไป 288,888 บาท ครั้งเดียว เนื่องจากขณะนั้นมีความทุกข์จึงหลงเชื่อ และคิดว่าจะช่วยตนได้ และสุดท้ายได้รับเงินคืนมา 188,888 บาท เท่านั้น

ขณะที่ นายณฐวัฒน์ สุทธิบุตร อายุ 46 ปี เปิดเผยว่า ในส่วนของตน ปกติมีอาชีพขับแท็กซี่ ซึ่งก่อนหน้านี้หมอดูคนดังกล่าวเคยใช้บริการแล้วติดเงินค่าแท็กซี่ ได้ขอเบอร์ไว้เพื่อคืนเงิน แต่กลับมีการโทรขอยืมเงินหลายครั้ง ก่อนจะขอชดใช้หนี้โดยให้ตนเป็นผู้รับเหมาเรื่องตู้ควบคุมไฟในพื้นที่ จ.ชุมพร แต่สุดท้ายตู้ไฟดังกล่าวกลับชำรุดหลายครั้ง ต้องชดใช้ให้กับลูกค้ากว่า 1 ล้านบาท จนตนต้องไปขอยืมเงินจากญาติพี่น้อง ซึ่งหลังจากรู้ว่าถูกหลอกก็ได้ฟ้องร้องเป็นคดีความกันจนชนะคดี ซึ่งศาลได้มีคำสั่งให้หมอดูชดใช้ค่าเสียหายเดือนละ 25,000 บาท ตั้งแต่ปี 2561 แต่กลับมีการชดใช้ล่าช้า

ส่วน น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 33 พนักงานบริษัทนำเข้ากล่องกระดาษ กล่องกระดาษลูกฟูก เปิดเผยว่า ตนทราบมาว่าหมอดูคนดังกล่าวดูดวงแม่น จึงลองให้ทำนายดวงของตน ซึ่งหมอดูได้บอกว่าครอบครัวของตนมีเคราะห์ ด้วยความที่เป็นคนรักครอบครัวจึงหลงเชื่อ โอนเงินให้ 88,888 บาท เพื่อประกอบพิธีกรรม แต่หมอดูก็ยังทักมาให้โอนอีก อ้างว่าต้องใช้ประกอบพิธี จนตนโอนเงินไป 3 ครั้ง ครั้งละ 88,888 บาท ซึ่งหมอดูก็แจ้งว่าจะโอนเงินคืนมาให้ภายใน 1 วัน แต่กลับโอนคืนมาเพียง 5,888 บาท โดยไม่ส่งสลิปการโอนเงินมาให้ ส่วนเงินที่เหลือก็บ่ายเบี่ยงเรื่อยมา อ้างว่าเคราะห์ไม่ดีขอโอนเงินวันอื่น

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนทำการสอบปากคำผู้ร้องประกอบพยานหลักฐาน ก่อนส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป.