สาวร้องทนายโป้ง จับได้ผัวทหารซุกกิ๊ก ถูกซ้อมหน้าบวมปูดบังคับหย่า ต่อหน้าสาวคนใหม่และเพื่อนทหาร แจ้งความคดีไม่คืบ ตร.แค่ลงบันทึกประจำวัน ซ้ำ โฆษกกองทัพเรือ ให้ข่าวหาว่าเรียกร้องเงิน
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 15 ต.ค.65 ที่ชมรมทนายความจิตอาสา ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี น.ส.พลอย (นามสมมุติ) เดินทางเข้าพบ นายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือ ทนายโป้ง เพื่อให้ช่วยติดตามคดีกรณีถูกอดีตสามีที่รับราชการทหาร สังกัดกองทัพเรือ ซ้อม หลังจับได้ว่าสามีนอกใจแอบมีกิ๊ก จึงทำให้ตัวเองถูกทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณโหนกเเก้มด้านซ้ายปูดบวม เบ้าตาเขียว มีรอยฟกช้ำตามตัวหลายแห่ง อีกทั้งยังถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น 2 ครั้ง ตั้งแต่วันที่ 13 ก.ย.และวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุเข้าแจ้งความที่ สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี แต่คดีไม่มีความคืบหน้า เกรงไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงเข้ามาขอให้ทนายโป้งช่วยเหลือ
น.ส.พลอย อดีตเมียจ่าทหารและเป็นแม่ค้าขายถุงกระดาษคราฟท์ ถุงกระดาษหูหิ้ว กล่าวว่า เมื่อวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา ตนถูกอดีตสามีทำร้ายร่างกาย ส่วนสาเหตุมาจากการที่ตนจับได้ว่าสามีแอบคุยกับผู้หญิงคนใหม่ จากนั้นได้มีการนัดให้ไปคุยกันที่ทำงานของฝ่ายชาย ซึ่งฝ่ายชายได้พาผู้หญิงคนใหม่มาด้วย แล้วบังคับให้ตนเซ็นใบหย่า แต่ตนไม่ยอมเซ็น จึงทำให้เขาโกรธมากและลงมือทำร้ายร่างกายตน ซึ่งขณะที่เขากำลังทำร้ายตนนั้นก็มีทหารคนอื่นอยู่ด้วย แต่ไม่มีใครกล้าเข้ามาช่วย หลังเกิดเหตุตนจึงเข้าแจ้งความที่ สภ.สัตหีบ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากนั้นทางต้นสังกัดของฝ่ายชายได้นัดให้เข้าไปเจรจา แต่เรื่องไม่จบเพียงเท่านั้น ต่อมาวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา ฝ่ายชายได้กลับมาทำร้ายตนอีกครั้ง ทำให้ได้ร้บบาดเจ็บที่บริเวณแขนและขา มีรอยเขียวช้ำหลายจุด ซึ่งตนก็คิดไว้แล้วว่ายังไงเขาก็ต้องกลับมาทำร้ายตนอีกอย่างเเน่นอน ตอนนี้ตนรู้สึกหวาดกลัวกับพฤติกรรมของอดีตสามีเป็นอย่างมาก เกรงว่าจะย้อนกลับมาทำร้ายตนอีกครั้ง ตอนนี้ไม่รู้ว่าจะหันหน้าไปปรึกษาใคร อีกทั้งการที่ตนไปแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับอดีตสามี กลับเป็นเเค่เพียงการลงบันทึกประจำวันเท่านั้น ไม่มีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับมาแต่อย่างใด วันนี้จึงตัดสินใจนั่งรถจากสัตหีบเพื่อมาขอความช่วยเหลือจากทนายโป้ง
น.ส.พลอย กล่าวด้วยน้ำตานองหน้าอีกว่า และในส่วนของทางโฆษกกองทัพเรือ ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตนต้องการเรียกร้องเงินนั้น ตนขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ที่ผ่านมาตนสู้มาเพียงลำพังคนเดียว เป็นผู้หญิงตัวคนเดียวที่ทำเเบบนี้ก็เพื่อต้องการปกป้องศักดิ์ศรี และเรียกร้องสิทธิของตนเท่านั้น
ทางด้านทนายโป้ง กล่าวว่า เบื้องต้นที่ได้รับฟังข้อมูลประกอบกับเอกสารที่มีอยู่ตอนนี้ เข้าใจว่าตัวน้องผู้เสียหายกับพนักงานสอบสวนอาจจะเข้าใจคลาดเคลื่อน ซึ่งที่ผ่านมาพนักงานสอบสวนก็ทำงานตามขั้นตอนแล้ว แต่ตัวน้องอาจจะไม่ทราบในเรื่องของขั้นตอน เพราะอาจจะไม่ได้มีการอธิบายว่าหลังจากที่ลงบันทึกประจำวันเสร็จแล้ว จากนั้นต้องไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ว่ามีการทำร้ายร่างกายกันจริงหรือไม่ และได้รับบาดเจ็บอะไรบ้าง ซึ่งที่ผ่านมาน้องเขายังไม่ได้ไปตรวจร่างกายแต่อย่างใด
วันนี้ตนจึงเเนะนำให้น้องเอาใบส่งตัวจากพนักงานสอบสวนไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย และให้เเพทย์ลงความเห็นว่ามีการถูกทำร้ายร่างกายจริงหรือไม่ และมีบาดเเผลอะไรบ้าง เพื่อนำมาประกอบสำนวน ซึ่งพนักงานสอบสวนจะเร่งสอบปากคำ จากนั้นพนักงานสอบสวนก็จะทำการออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหา ก็คือจ่าทหารที่เป็นอดีตสามี มารับทราบข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกาย เรื่องนี้อาจจะเข้าข้อบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทำรุนแรงในครอบครัวด้วย ซึ่งที่ผ่านมาน้องไปแจ้งความว่าถูกทำร้ายถึง 2 ครั้ง แต่น้องก็ยังไม่เข้าสู่ระบบเป็นผู้เสียหายในคดีอาญา เพราะประจำวันลงไว้แค่เป็นหลักฐานเท่านั้น ซึ่งตัวน้องเข้าใจว่าดำเนินคดีไปแล้ว แต่ทำไมเรื่องถึงเงียบ
สุดท้ายนี้ขอฝากไปถึงพี่น้องประชาชนทุกคนที่ถูกทำร้ายร่างกาย หลังจากแจ้งความเสร็จแล้ว ทางพนักงานสอบสวนจะมีหนังสือส่งตัวให้ไปตรวจร่างกาย จากนั้นนำใบรับรองแพทย์ส่งกลับมาที่พนักงานสอบสวน เพื่อที่จะสรุปสำนวนและเเจ้งข้อกล่าวหาต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ล่าสุดทางกองทัพเรือเตรียมเรียกทั้ง 2 ฝ่าย เข้ามาพูดคุยเพื่อหาข้อยุติกันในวันที่ 17 ต.ค.65 นี้