โดยเจ้าตัวเล่าว่า สวัสดีครับผมมีเรื่องจะมาเล่าให้ฟังใครเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้บ้าง ผมได้เรียกรถจาก…ได้คันนี้ เรียกจากสุกี้จินดาติวานนท์ไป โรงแรมคาซ่า
พอขึ้นรถแอร์รถมันเย็นมาก ผมเลยมีการนำมือข้างซ้ายไปปรับองศาของแอร์ไปทางกระจก (แอร์แรงลมปรับเกือบสุดขาด 1 จุดไม่รู้ว่าเรียกอะไร รวมถึงความเย็นด้วยปรับเช่นกัน) พอปรับปุ๊ปคนขับรถพูดขึ้นว่า ถ้าอะไรเสียหายผมแจ้งความนะครับ คือมันแค่ปรับแอร์ อะไรจะขาดนั้น ผมก็งง ผมเลยบอกไปว่า งั้นพี่เบาแอร์หน่อย แต่เค้าก็ไม่ปรับ
ผมเลยบอกขอปรับแอร์นะครับ เลยมีการยื่นมือไปปรับความเย็นและแรงลม บวกกับปรับขวามือให้ออกไปทางคนขับ คนขับเหยียบแบรกแล้วพูดขึ้นว่า ผมไปโรงพักนะครับ ไปแจ้งความ เพราะถ้ามีอะไรเสียหายผมต้องแจ้งความตามจริง และผมก็ทำงานทนายความ หรือจะลงจากรถผมไปแล้วเรียกคันอื่น
ระหว่างที่พูดคือสีหน้าแบบ แย่มากๆ แต่ด้วยความมันดึกมากๆ ผมแบตเหลือ 7% เลยบอกว่าพี่ ไปเถอะผมไม่อยากเรียกคันใหม่ แล้วก็ขับไป จนถึงที่ แต่อึดอัดและกลัวมาก ใครเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้บ้างครับ ผมไม่เคยเจอแบบนี้เลย
ความคิดเห็นของชาวเน็ต
ซึ่งหลังจากเรื่องราวถูกเผยแพร่ออกมาเพียงข้ามคืนเท่านั้น ก็ได้รับความสนใจจากโซเชียลฯ อย่างมาก มีคนแชร์ต่อไปมากกว่า 400 ครั้ง และเข้ามาคอมเมนต์มากกว่า 600 ข้อความ เป็นการแสดงความคิดเห็นกันในหลายแง่มุน ในขณะเดียวกันหลายคนยังตั้งข้อสงสัยว่าคนขับเป็นทนายความจริงหรือไม่ เช่น ถุงเมทัลไลท์ / ถุงฟอยด์
“การที่จะมาปรับระดับความเย็นของแอร์หรือปรับอะไรที่ด้านหน้าของรถ เช่นแอร์, ความเย็น, ระดับแรงลม, วิทยุ, อื่นๆ ที่เกี่ยวกับระบบไฟฟ้า ควรแจ้งคนขับก่อน, หรือให้เขาปรับให้, ถือว่าเป็นมรรยาท, แต่คนขับก็ไม่ควรที่จะพูดในเชิงแจ้งตำรวจขนาดนั้น //จากคนขับเหมือนกัน”
“ทนายที่ไหนขู่เรื่องแบบนี้ ไม่มีหรอกคะ ไปโรงพักก็ไป แจ้งก็แจ้ง แจ้งข้อหาไรก่อน”
“รีวิวตามจริงแล้วคอมเพลน ผ่านแอปครับ น่าจะเหมาะสมที่สุดแล้ว”
“คอมเพลนผ่านแอปคับ แบบพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ บริษัทจะตรวจสอบย้อนหลัง เห็นผลช้าหน่อย แต่สามารถให้ดาวเดียวและคอมเมนต์ได้เลย คะแนนมีผลต่อการรับงานคับ”
“ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับกลิ่นตัวที่ติดจากสุกี้จินดาไหมนะคะ เผอิญเห็นเพื่อนๆขึ้นแท็กซี่แล้วคนที่ไม่ได้กินจะเหม็น เลยเปิดแอร์ลมให้กลิ่นกระจายดี (พยายามคิดบวกสุดๆคะ) แต่ก่อนปรับแอร์ก็คงอยากให้ลูกค้าบอกคนขับก่อน ก็ดีกว่าคะ”