เป็นความลับที่อยู่ในใจ เป็นความลับที่อยู่ข้างใน ก็ไม่รู้จะบอกเธอได้อย่างไร….
ถ้อยเพลงสั้นๆ แต่แฝงไปด้วยความหมายที่หลายคนอาจจะไม่เข้าใจหากไม่มีความรักลับๆ ที่ไม่อาจจะบอกใครได้ ซึ่งความลับอาจจะเก็บไว้ได้ แต่ความรักที่ไม่สามารถเก็บไว้ได้ต้องทำเช่นไรหาก ไม่อยากสูญเสียเธอไปตลอดกาล
กลายเป็นคดีสะเทือนขวัญสั่นประสาทไปทั่วเมืองกรุงหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวนายชาญวิทย์ เซลล์ขาย สายรัดพลาสติก สายรัดกล่อง ที่ได้ทำการฆ่าหั่นศพน้องพิณ กิ๊กสาวสวยวัย 30 ปี เสียชีวิตภายในคอนโดย่านสำโรงเหนือ ก่อนจะทำการชำแหละศพออกเป็น 7 ส่วน แล้วนำไปฝั่งดินบริเวณใต้ทางด่วน ฉลองรัช ถนนเลียบด่วนรามอินทรา สร้างตำนานฆ่าหั่นศพที่โหดเหี้ยมสะเทือนขวัญสยดสยองไปทั่วเมือง
อะไรคือสาเหตุ ทำไมต้องฆ่า ทำไมกล้าหั่นศพ ตามไปดูเหตุการณ์ทั้งหมดพร้อมหาคำตอบไปพร้อมกัน รักลับๆ สับสยอง
วันที่ 28 ก.ย. 65 เวลา 20.00 น. นายชาญวิทย์ ได้มีปากเสียงกับน้องพิณ เกี่ยวกับเรื่องปัญหาความรัก ที่ตกลงไม่ได้ ก่อนที่ปีศาจร้ายจะเข้าสิง โดยนายชาญวิทย์ได้ใช้มีดปลายแหลมแทงเข้าไปที่ด้านหลังและบริเวณลำตัวของน้องพิณ กว่า 10 แผล จนเสียชีวิตคาที่อาจจะด้วยความรักหรือความอาลัยรักก็ไม่ทราบ ฆาตกรยังใจเย็นนอนอยู่กับศพ 1 คืน
วันที่ 29 ก.ย.65 ฆาตกรเลือดเย็นได้ออกไปด้านนอกห้องพักและได้มีการซื้ออุปกรณ์ในการหั่นศพเพิ่มเติม ก่อนจะกลับห้องแล้วนำร่างของผู้ตายเข้าห้องน้ำ จากนั้น
ใช้มีดชำแหละร่างของน้องพิณอย่างใจเย็นออกเป็น 7 ส่วน โดยใช้ขวานที่มีความคมสับตามข้อต่อ ทำให้ชิ้นส่วนศพขาดในทันที
วันที่ 30 ก.ย.65 เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. นายชาญวิทย์ ได้ขนชิ้นส่วนศพใส่รถยนต์ฮอนด้า ซิตี้ สีขาว และนำชิ้นส่วนร่างของน้องพิณใส่กระเป๋ามาฝังบริเวณตอม่อใต้ทางด่วน เกษตรนวมินทร์ โดยจอดรถยนต์ส่วนตัวไว้ข้างทาง ก่อนจะเดินข้ามถนนมาบริเวณจุดฝัง ซึ่งเป็นป่าใต้สะพานและเป็นมุมอับสายตา ไม่มีไฟ เเละไม่มีกล้องวงจรปิด
ก่อนจะใช้เสียมที่เตรียมลงมือขุดดิน เเละนำชิ้นส่วนฝังดิน แต่ยังพลาดทิ้งหลักฐานคือ ถุงมือผ้าสีเขียว เเละเสียมที่ใช้ขุดดิน ก่อนหลบหนีไปอย่างลอยนวล
หากไล่เรียงเหตุการณ์ทั้งหมดเหมือนจะเป็นไปตามแผนที่นายชาญวิทย์ได้วางเอาไว้ ไร้ร่องรอย ไม่มีพิรุธ ไม่มีจุดสังเกต กลับห้องนอนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แต่แล้วฟ้ายังมีตา สวรรค์ยังเป็นใจ นรกยังเปิดกว้าง แผนการอหังกาห์ก็ต้องพลิกผัน เมื่อฆาตกรได้ทิ้งเศษเสี้ยวของขนมปังที่นำไปสู่การล้มแผนฆ่าลับๆ สับสยอง
โดยช่วงสายๆ ของวันที่ 1 ตุลาคม 2565 แม่บ้านคอนโดผู้กว้างขวาง มีไหวพริบ ช่างสังเกตและรอบรู้เรื่องราวทุกอย่าง เริ่มผิดสังเกตจากความรักของทั้งคู่ โดยเห็นแต่ฝ่ายชายเดินเข้าออกบริเวณคอนโดเพียงลำพัง และไม่เห็นฝ่ายหญิงมานานประมาณ 3 วันแล้ว ประจวบเหมาะกำลังจะเข้าไปทำความสะอาดห้องพักที่อยู่ติดกับห้องเกิดเหตุ แต่เปิดห้องผิด ซึ่งขณะนั้นนั้นผู้ก่อเหตุไม่ได้อยู่ภายในห้องพัก
เมื่อเปิดห้องเข้าไป ก็ได้กลิ่นคาวเลือด เเละในห้องน้ำมีการเปิดน้ำทิ้งไว้ จึงสงสัยว่าห้องนี้ต้องเกิดเรื่องไม่ดีแน่นอน จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ทั้งนี้เมื่อเปิดประตูห้องเข้าไป ก็พบผู้ก่อเหตุ นั่งอยู่ในห้อง ใช้ชีวิตปกติ ไม่มีท่าทีขัดขืน และยอมรับกับตำรวจว่าฆ่าและหั่นศพแฟนตนเอง ก่อนนำไปฝังดิน
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องยอมรับว่าฆาตกรมีความเลือดเย็นและนิ่งเป็นอย่างมาก ถึงขนาดฆ่าคนตาย หั่นศพแล้วนำไปทิ้ง กลับมาใช้ชีวิตแบบปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ยิ่งได้ฟังคำสารภาพยิ่งตอกย้ำความเหี้ยมโหด ความลับ ความรัก ความปรารถนา ที่ยากจะเข้าใจในตัวฆาตกรคนนี้
จากคำสารภาพของนายชาญวิทย์ เปิดเผยว่าคบหากับน้องพิณมานานกว่า 2 ปี แล้ว และยอมรับว่าทั้งรักทั้งหลงฝ่ายหญิงมาก ก่อนเกิดเหตุได้มาเช่าห้องอยู่ด้วยกันเป็นเวลา 5 วัน แต่ก็ต้องทะเลาะกันอย่างรุนแรง เพราะเกิดจากความหึงหวง ไม่อยากให้น้องพิณไปไหนไม่มีใคร และต้องการเปิดตัวว่าเป็นแฟนกัน
ที่ต้องฆ่าเนื่องจากระเคะระคายว่าฝ่ายหญิงพยายามตีตัวออกห่างและเกิดมีปากเสียงกัน จึงใช้อาวุธมีดที่เตรียมมาก่อเหตุฆ่าจนเสียชีวิต
ส่วนการชำแหละศพ ซ่อนเร้นอำพรางนั้น ได้แนวทางมาจากการดูภาพยนตร์ฆาตกรรมแนวสืบสวนสอบสวนฆ่าหั่นศพของฝรั่ง จึงนำมาเลียนแบบในการก่อเหตุ
วิธีการคือมีการใช้มีดปลายแหลมแทงตามลำตัวของผู้ตายกว่า 10 แผล ส่วนวิธีการหั่นศพ ใช้ขวานที่มีความคมสับตามข้อต่อ ทำให้ชิ้นส่วนศพขาดในทันที
แต่ที่น่าตกใจไปกว่านั้นคือแผนการทั้งหมดไม่ได้เกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ แต่เกิดจากการวางแผนของนายชาญวิทย์ที่เตรียมการมากว่า 3 เดือนแล้ว และขุดหลุมเตรียมไว้ก่อนที่จะก่อเหตุ 1 เดือน กลายเป็นคดีสะเทือนขวัญคนกรุงที่เกิดขึ้น
จากคำสารภาพก็คือมุมมองของฆาตกร ความรักลับๆ ที่อยากเปิดเผยเป็นมูลเหตุของการฆาตกรรม แต่หากมองย้อนกลับไป อยากถามใจฆาตกรดูว่าสิ่งที่ทำลงไปมันคือเหตุของความรัก ความหึงหวงจริงหรือไม่
เพราะเหยื่อคือผลพวงของความรักแบบลับๆ ที่ไม่มีใครอยากพัวพันด้วย สาเหตุที่น้องพิณ ต้องตีตัวออกห่างอาจเป็นเพราะนายชาญวิทย์ เองมีครอบครัวอยู่แล้วตั้ง 9 ปี และกว่า 2 ปี ที่คบกันก็ปกปิดเรื่องราวทั้งหมด เมื่อรู้ความจริงเป็นใครก็อยากตีตัวออกห่าง