ความหวานเหมือนเดิมมั้ย?
นุ่น : คู่นุ่นไม่ใช่คู่ที่หวาน ถ้าจำกัดคำว่าหวาน ต้องสวีตอยู่ด้วยกันตลอดเวลา ไม่ใช่ คาแรกเตอร์กับต๊อดอาจเป็นคู่ที่ไม่เหมือนใครมาก ถึงจะไม่หวานแต่เรามีความใส่ใจซึ่งกันและกัน เราแชร์เรื่องราวชีวิตกันและกัน
ไปเรียนเต้นเลย?
นุ่น : ท่าไม่สวย ก็นุ่นเรียนรำมา รำก็สู้ตาย แต่เรียนเต้น เอาจริงๆ ณ ปัจจุบัน ตัวนุ่นเองยังชอบอยากทำงาน และคิดว่าศักยภาพของเราไม่ได้เยอะเหมือนที่ทุกคนคิดว่าเก่ง เรารู้สึกว่าเราไม่ได้เก่งเลย ยังมีอีกหลายสกิลที่เราขาด ก็เลยอยากลอง พอมีโอกาสได้เต้นกับน้องๆ หลายๆ ครั้งก็เลยเรียนดีกว่า เพราะเราไม่รู้จักร่างกาย เห็นเด็กหลายคนเขาเก่ง เขาฝึกหลายๆ อย่าง เราก็อยากทำแบบนั้นบ้าง มีคำพูดของหม่อมน้อย บอกว่าเราไม่สามารถเอาความสำเร็จในอดีตมาวัดกับปัจจุบันได้ ถ้าเรามัวแต่หลงใหลว่าอดีตเราประสบความสำเร็จแค่ไหนมันไม่ได้ เราต้องทำวันนี้ให้ดีในทุกๆ อย่างที่เราได้ทำ และช่วงนี้มีเวลาว่างมากขึ้น บางทีมีงานติดต่อมาหลากหลายอย่าง เรารู้สึกว่างานนี้เรายังไม่พร้อม งานนี้เรายังไม่ได้ ก็พยายามฝึกทักษะตัวเอง ตอนนี้เรียนภาษาจีนด้วย เรียนหลายๆ อย่าง สนุกด้วย พัฒนาสมองด้วย
พี่ลิง กับ พี่ดู๋ สัญญา เป็นพี่ที่สนิทมากๆ?
นุ่น : พี่ดู๋น่ารักมากๆ นุ่นทำรายการที่นี่หมอชิตกับพี่ๆ 10 ปีนะ นุ่นได้ประโยชน์ ได้ความรู้ ได้เทคนิค ได้ทักษะการเป็นพิธีกรกับเขาเยอะมาก บางอย่างเราเคยกลัว เขาก็เป็นคนนึงทำให้เราก้าวข้ามบางอย่างไป เขาก็สอนนุ่นนะ ตอนถ่ายละครเราไม่ได้อ่านหนังสือพิมพ์ติดตามข่าวเลย พี่ดู๋บอกว่าไม่ได้นะ เราต้องอ่าน ไม่งั้นเราจะไม่รู้อะไร เราจะคุยกับคนอื่นไม่รู้เรื่อง เราต้องรู้ทุกอย่าง รู้รอบตัว มีความรู้เข้าไว้
อยากบอกอะไร?
นุ่น : คิดถึงเสมอค่ะ พี่ดู๋พี่ลิงยังอยู่ในความทรงจำเสมอ แล้วพี่ดู๋กับพี่ลิง ทำให้นุ่นเป็นคนชอบเที่ยวค่ะ เพราะที่นี่หมอชิตทำให้เราได้เปิดโลก สมัยก่อนผู้ใหญ่ไม่ให้เราไปไหน ไม่เคยได้ไปต่างประเทศ แต่พอทำรายการเราได้ไปหลายที่ เป็นแรงบันดาลใจนึงที่ทำให้เราชอบเที่ยวได้ไปเจอคนดีๆ คนพลังงานบวก เห็นวัฒนธรรม พอเห็นอะไรเราก็ได้เอากลับมาพัฒนาหรือเป็นไอเดียในการต่อยอดทำงานของเรา ตั้งแต่การทำยูทูปท่องเที่ยวก็ทำให้รู้จักพี่ๆ น้องๆ หลายคน จนทำโรงแรมที่เกาะล้าน PORTO SALO
ประสบการณ์เจอมนุษย์ต่างดาว?
นุ่น : ไม่ได้เห็นขนาดนั้น แต่เห็นเหมือนวัตถุที่ระบุไม่ได้มากกว่า จริงๆ เคยอัดเอาไว้ในยูทูบตัวเองด้วย เพราะมันตื่นเต้นมากๆ ที่ทางใต้ของฝรั่งเศส ตอนแรกเราอยู่บนรถ กำลังกลับเข้าโรงแรม พี่จุกก็เห็นเป็นกลุ่มไฟ ก็ถามไกด์ว่าตรงนั้นมีหมู่บ้านอยู่เหรอ เขาก็ตอบว่าไม่ใช่ มันเคลื่อนตัวไม่ใช่เครื่องบิน เราก็พูดเล่นๆ ว่าไอว่ายูเอฟโอแน่เลย ถ้าใช่เดี๋ยวเขามาให้เห็นเองแหละ สักพักมาด้านข้าง ถ้าเปรียบเทียบกับเมืองนอกจะมีไหล่ทาง มีต้นไม่สูงๆ เขาใหญ่มาก พี่จุกสายตายาวกว่าเราเขาบอกเป็นสี่เหลี่ยมคางหมู แต่นุ่นเห็นเป็นไฟดวงๆ หลายดวงกระพริบ พอเริ่มเห็นก็ให้คนรถจอด แสงไฟที่อยู่ตรงวัตถุที่เราเห็น มันเข้าหน้าร้อนเลยนะ
ฟีลเหมือนไฟสนามฟุตบอลไฟคอนเสิร์ต ส่องหน้าเราแล้วร้อน พี่จุกหยิบโทรศัพท์จะถ่ายรูป พอกดหน้าต่างลง ก็หาย ระยะที่เห็นเป็นครั้งที่สาม นุ่นก็เลยไปเสิร์จเน็ตดู ระยะที่นุ่นเห็นอันที่สองไม่มีอยู่ในอินเตอร์เน็ตเลย อาจเป็นเรื่องของจิตมั้ย ที่เขาไม่อยากให้เราเห็นมั้ย ทั้งที่อยู่ตรงหน้าเรา อยู่นานด้วย แต่พอจะถ่ายรูปหาย มันใหญ่มากนะ ตอนนั้นสี่ทุ่มครึ่งแล้ว ฉะนั้นที่เราเห็นชัดคือแสง เรารับรู้ถึงพลังงานความร้อนได้ แล้วระยะที่สามใช้กล้องไลก้าถ่าย ใช่หรือเปล่าเราก็ตอบไม่ได้แต่เป็นสิ่งอเมซิ่งที่เราได้เจอ ยังอยากเห็นอยู่ มันตื่นเต้น
จะได้เห็นผลงานของนุ่นอีกเมื่อไหร่?
นุ่น : ปีนี้ก็มีอยู่นะคะเป็นซีรีส์ อย่ากลับบ้าน ทางเน็ตฟริกซ์
มีบทอะไรที่ยังอยากเล่น?
นุ่น : ตอบยากจังเลย เป็นคนอ่านบทแล้วรู้สึกว่าน่าสนใจมั้ย โดยเราไม่ได้คิดว่าต้องเป็นบทแบบไหนยังไง เราจะให้ความสำคัญกับเรื่องดีเทล เรื่องตัวเรื่องมากกว่า สมมติถ้าบทเดียวกันในอายุที่แตกต่างกัน สมมติ 10 ปีที่แล้วกับตอนนี้ นุ่นว่านุ่นก็เล่นไม่เหมือนกัน แล้วมุมมองการใช้ชีวิตกับตอนนี้ก็ไม่เหมือนกัน ผู้จัดไงคะถ้าเธอทำฉันเล่น เธอทำเปล่าล่ะ
หนิง : พูดแล้วนะ รอดูคุณผู้ชม รอดูค่ะ เกิดแพสชั่นขึ้นมาเลย หลังจากล้มเหลวจากการทำงานมากพักใหญ่ๆ (หัวเราะ)